การที่เราจะเข้าไปประเทศสหรัฐอเมริกาได้เนี่ย เราก็ต้องมีวีซ่าซะก่อนค่า ไม่ใช่ซื้อตั๋วเครื่องบินแล้วบินไปได้เลยนะเออ แค่ไปเปลี่ยนเครื่องที่อเมริกายังต้องขอวีซ่าเลยจ้า เข้มงวดมากจริงๆพี่มะกันเรา เพราะฉะนั้นไอ้ประเภทวีซ่าเนี่ยมันก็จะแตกต่างกันออกไปค่ะ เรามาดูกันที่ประเภท F-1 ดีกว่าเนอะ ประเภทนี้มีจุดประสงค์สำหรับการศึกษาต่อในประเทศสหรัฐอเมริกาจ้า (ไม่ใช่ระยะสั้นเฉกเช่นนักเรียนแลกเปลี่ยนหรือwork and travelเน้ออ แบบนั้นเขาจะใช้ประเภท J-1 จ้า)
วิธีหลักๆง่ายในการขอวีซ่าF-1ก็คือ
1. เตรียมเอกสาร 2.จ่ายตัง 3.สัมภาษณ์ แค่นี้เลยค่าา
มาดูสิ่งที่เขาต้องการสำหรับการยื่นขอวีซ่า F-1 กันเลยค่ะ
(อันนี้ตามแบบฉบับที่เราได้ไปเจอมาเลยน้า)
1. อันดับแรกเลยคือใบ I-20 จากทางมหาลัยค่ะ นั่นก็หมายความว่า.. เราจะต้องได้รับเข้าเรียนในมหาลัยที่เราต้องการแล้วนั่นเองค่ะ ^___^ พอเราได้รับเลือกเข้าเรียนแล้ว ทางมหาวิทยาลัยก็จะส่งใบ I-20 และจดหมาย Acceptance รวมทั้งข้อมูลต่างๆนาๆตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันรถสิบล้อมาให้เราถึงบ้านเลยค่ะ แต่สำหรับการขอวีซ่านั้น เราต้องการเพียงแค่ใบ I-20 เท่าน้านนนน
2. Passport ที่มีอายุมากกว่าประมาณ 6 เดือนหลังจากวันเดินทางค่ะ เอาเป็นว่าเอาที่มันเหลือเยอะๆหน่อยแล้วกัน ถ้าใกล้จะหมดอายุแล้วแนะนำให้ไปทำใหม่เลยค่ะ เพราะเราไปเรียนเป็นปีๆ Passport นี่ก็เหมือนบัตรประชาชนของเราตอนเราอยู่ที่นู้นเลยค่ะ
3. แบบฟอร์ม DS-160 ค่ะ สามารถกรอกได้ที่เว็ปไซต์สถานทูตเลยจ้า แบบฟอร์มนี้สำคัญมากๆค่ะ เขาจะใช้ข้อมูลในส่วนนี้ในการออกวีซ่าให้เราค่ะ ถามตั้งแต่โคตรเหง้าชาติตระกูลรวมทั้งเพื่อนพ้อง ไปจนถึงคดีอาชญกรรมที่เลยกระทำค่ะ(เอ่ออ ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องเลือกนะคะ)
เอกสารที่ต้องเตรียมไว้ก่อนกรอกแบบฟอร์มก็คือ
1) Passport เพราะต้องกรอกข้อมูลตามพาสปอร์ตค่ะ เลขที่พาตปอร์ตและอื่นๆ
2) I-20 ต้องกรอกรหัสที่เขียนเอาไว้ในใบ I-20 ค่ะ
3) รูปถ่าย 2 นิ้ว เห็นหูชัดเจนนะคะ แนะนำให้ไปร้านที่เขาเชี่ยวชาญเลยจ้า จะเป็นอะไรที่สบายมาก ผ่านแน่นอน
เมื่อเอกสารพร้อมแล้ว ก็ลุยกรอกDS-160กันเลยค่าาา แต่ขอเตือนหน่อยน้าว่ามันจำกัดเวลา อย่าปล่อยทิ้งไว้นานโดยไม่พิมพ์อะไร เพราะมันจะเด้งหายไปเองอัตโนมัติ แล้วเราก็ต้องเริ่มพิมพ์ใหม่แต่ต้น! เป็นอะไรที่มันเซ็งนักแล..
4. ใบเสร็จค่า SEVIS ค่า เป็นค่าใช้จ่ายที่นักเรียนทุกคนที่ไปเรียนในอเมริกาต้องจ่าย อันนี้ในเว็ปจะมีบอกรายละเอียด และราคา สามารถชำระผ่านบัตรเครดิตได้เน้อ และอย่าลืมปริ้นใบเสร็จด้วยละ
5.ใบเสร็จค่าธรรมเนียมวีซ่า การจะขอวีซ่าก็ต้องมีค่าธรรมเนียมนะคะ วันสัมภาษณ์เราเห็นหลายคนไม่มีใบเสร็จค่าธรรมเนียม จนท.จะให้จ่าย ณ จุดๆนั้นเลยค่ะ เป็นอะไรที่เสียเวลาและเสียขวัญกำลังใจเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้น!! เราจงแห่กันไปณ ที่ทำการไปรษณีย์ไทยที่สามารถจ่ายค่าธรรมเนียมวีซ่าได้ ไปที่เค้าเตอร์และแจ้งว่ามาจ่ายค่าธรรมเนียมวีซ่าอเมริกา ประเภท F-1 แค่นั้น จบจ้า!
6. ซื้อพินเพื่อจองวันสัมภาษณ์ ได้ที่ไปรษณีย์ไทยค่ะ เราก็ซื้อตอนที่ไปจ่ายค่าธรรมเนียมซะเลยเนอะ (สามารถใช้พินจองได้หลังจากวันที่ซื้อพิน 1 วันนะคะ ข้าพเจ้าซื้อมาปุ้ปลืมอ่านว่าเขาเขียนว่ายังไง พยาย๊ามพยายามจะจองวันสัมภาษณ์ แต่มันก็จองไม่ได้ โมโหมาก แต่สุดท้ายตัวเองนี่แหละ ไม่ดูตาม้าตาเรือ 555)
7. เอกสารอื่นๆ เช่นเอกสารยืนยันทางการเงิน, ใบจบการศึกษา, ใบรับรองสปอนเซอร์
ครั้งหน้าเราจะมาดูกันในเรื่องของการสัมภาษณ์วีซ่านะคะ รวมทั้งประสบการณ์ตรงที่ได้ไปเจอมาณ วันสัมภาษณ์ค่า
